สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการไทยพีบีเอสภูมิภาคกลาง จัดเวทีกรณีท่อน้ำมันรั่วกลางทะเล จ.ระยอง
สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการไทยพีบีเอสภูมิภาคกลาง จัดเวทีกรณีท่อน้ำมันรั่วกลางทะเล จ.ระยอง ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทางทะเลฝั่งตะวันออก โดยมีเครือข่ายชาวบ้าน ชาวประมง และผู้ประกอบอาชีพในพื้นที่กว่า 14 เครือข่าย
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา สภาผู้ชมผู้ฟังรายการภูมิภาคกลาง องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเชิงสถานการณ์ กรณีท่อน้ำมันรั่วกลางทะเล จ.ระยอง ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทางทะเลฝั่งตะวันออก โดยมีเครือข่ายชาวบ้าน ชาวประมง และผู้ประกอบอาชีพในพื้นที่กว่า 14 เครือข่าย โดยมีนักวิชาการสิ่งแวดล้อม ดร.สมนึก จงมีวศิน นักวิชาการ EEC WATCH และ อาจารย์สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย ตัวแทนจากคณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย (สภาผู้แทนราษฎร) สมาชิกสภาจังหวัดระยองเขต 2 ดำเนินเวทีรับฟังความคิดเห็น
โดยเข้าร่วมกันแลกเปลี่ยนทัศนะต่อกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้น และการรับฟังเสียงสะท้อนจากการนำเสนอเนื้อหาของไทยพีบีเอส ในประเด็นท่อน้ำมันรั่วกลางทะเลที่จังหวัดระยอง โดยไทยพีบีเอส มีการนำเสนอ รวมทั้งสิ้นจำนวน 58 เนื้อหา (เฉพาะตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2565 – 7 กุมภาพันธ์ 2565) ผ่านทางการนำเสนอข่าวและรายการทุกช่วงเวลา
ในเวทีรับฟังความคิดเห็นฯ ในครั้งนี้ มีเสียงสะท้อนต่อการรายงายข่าวของไทยพีบีเอสเป็นที่น่าพอใจของประชาชนในพื้นที่ นำเสนอครบทุกมิติ ทั้งในส่วนของการรายงานสถานการณ์ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลกระทบต่ออาชีพประมง ท่องเที่ยว และอาหารทะเล รวมไปถึงอาชีพบริการอื่น ๆ อาทิ รถเช่า รถเร่ขายส้มตำ เช่าห่วงยาง แหล่งข่าวมีทั้งหน่วยงานราชการ รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ รมช.สาธารณสุข ผบ.ทร.ภาค1 อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ผวจ.ระยอง กรมเจ้าท่า หัวหน้า อทช.แหลมหญ้า-เกาะเสม็ด นักวิชาการประมง นักวิชาการสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รวมไปถึงประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ ชาวประมง ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการบริการและธุรกิจท่องเที่ยว ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้ค้าอาหารทะเล และนักท่องเที่ยว
ส่วนในข้อตกลงจากชาวบ้าน ชาวประมง และผู้ประกอบการบริการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบ มีมติร่วมกันว่า จะแต่งตั้งอาสาสมัครคณะกรรมการภาคประชาชน มีหน้าที่ทำข้อมูลและตรวจสอบความเสียหาย เพื่อเรียกร้องค่าเยียวยาที่เป็นธรรมและตั้งเป็นกองทุนฟื้นฟูทรัพยากรทางธรรมชาติ ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีท่อน้ำมันรั่วจากบริษัทเอกชน รวมทั้งสิ้น 14 เครือข่าย ได้แก่
- กลุ่มประมงพื้นบ้าน หมู่ 2,4,8,9 ต.เนินฆ้อ
- กลุ่มอนุรักษ์ประมงสามัคคี บ้านพลา
- เครือข่ายลุ่มน้ำประแสร์ 5 ตำบล
- กลุ่มประมงพื้นบ้านแหลม สนต.ปากน้ำประแสร์
- กลุ่มคอกแหลมเทียน
- กลุ่มประมงชายฝั่งคลองลาวน
- กลุ่มประมงสามัคคี อ.เมือง
- กลุ่มประมงบ้านเพ
- กลุ่มเรือไดปากน้าระยอง
- กลุ่มประมงเรือเล็กคลองลาวน
- กลุ่มประมงแหลมแม่พิมพ์
- กลุ่มประมงสวนสน 2
- สมาคมปากน้ำพังราด
- กลุ่มปากน้ำบ้านเรา
โดยมีข้อเสนอ ดังต่อไปนี้
- ข้อเสนอในเรื่องการตั้งกองทุนฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- ข้อเสนอในเรื่องการเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบในการประกอบอาชีพ
- คัดเลือกตัวแทน / ผู้ประสานงาน / อาสาสมัคร ที่จะต้องไปดำเนินการเรียกร้องบริษัทเอกชนคู่กรณี และทำงานกับหน่วยงานราชการ หากมีการตั้งกรรมการหลายฝ่าย
โดยสภาผู้ชมผู้ฟังรายการไทยพีบีเอสภูมิภาคกลาง ร่วมกับเครือข่ายชาวประมงและผู้ประกอบการที่มาร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นในวันนี้ จะมีการนัดหารือความคืบหน้าอีกครั้ง ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลบ้านเพ จ.ระยอง เพื่อให้ได้ข้อสรุปของคณะกรรมการภาคประชาชนและรายละเอียดข้อเรียกร้องค่าเยียวยาที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย และหลักการในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟู ก่อนที่จะถูกส่งต่อให้กับคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 นี้